การเดินทางช่วยให้เราเข้าใจความหมายของชีวิตและช่วยให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น ทุกการเดินทางเราจะมองโลกด้วยสายตาใหม่
หากพูดถึงจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในหมู่นักเดินทางชาวไทย ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้น ประเทศจีน ดินแดนแห่งมังกรที่ไม่เคยหยุดน่าหลงใหล ด้วยความงดงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ วัฒนธรรมเก่าแก่ที่ทอดยาวนับพันปี อาหารเลิศรส และแหล่งช้อปปิ้งสุดคึกคัก ยิ่งไปกว่านั้น นักท่องเที่ยวไทยยังสามารถเดินทางไปเยือนได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า แถมราคาทัวร์ก็แสนจะเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ วันนี้ นิตยสารท่องเที่ยวเห็ดยิ้ม ขอพาคุณไปสำรวจ 8 ภูเขาจีนสวย ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังของธรรมชาติ แต่ละแห่งล้วนเป็นสุดยอดจุดหมายที่สายรักธรรมชาติต้องปักหมุดไว้ในลิสต์ “ไปให้ได้สักครั้งในชีวิต” เตรียมกระเป๋า แบกเป้ แล้วออกเดินทางไปพร้อมกันเลยค่ะ!
ความงามแห่งหิมะนิรันดร์ที่ลี่เจียง
เริ่มต้นการผจญภัยด้วย ภูเขาหิมะมังกรหยก อัญมณีแห่งเมืองลี่เจียงที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างยกย่องในความงดงาม ภูเขาแห่งนี้ประกอบด้วยยอดเขา 13 ลูก โดยยอดสูงสุดสูงถึง 5,596 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล แต่จุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้สูงสุดอยู่ที่ 4,680 เมตร การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขานั้นแสนสะดวกด้วย กระเช้าลอยฟ้า ที่พาคุณลอยลัดเลาะผ่านทิวทัศน์อันตระการตา เมื่อถึงจุดชมวิว คุณจะได้สัมผัสกับหิมะขาวโพลนที่ปกคลุมตลอดทั้งปี มองไกล ๆ คล้ายมังกรหยกกำลังเลื้อยท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังมี น้ำตกใสสะอาด, ทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม, ลำธารไหลเย็น, และ หมู่บ้านโบราณ ที่สะท้อนวิถีชีวิตท้องถิ่นให้ได้สำรวจเพิ่มเติม หากคุณฝันถึงการชมเทือกเขาหิมะในเอเชียที่ไม่ต้องบินไกลถึงยุโรป ทัวร์ลี่เจียง คือคำตอบที่ห้ามพลาด!
ประตูสวรรค์ที่ท้าทายทุกสายตา
ต่อด้วย เขาเทียนเหมินซาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ประตูสวรรค์” หนึ่งในไฮไลต์ของ ทัวร์จางเจียเจี้ย ที่จะทำให้คุณตื่นตะลึงกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ โพรงหินขนาดยักษ์สูง 131.5 เมตร กว้าง 57 เมตร และลึก 60 เมตร เกิดจากการระเบิดตามธรรมชาติ เมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปพร้อมแสงแดดส่องลอดลงมา ราวกับเป็นประตูสู่สวรรค์ตามตำนานจริง ๆ การขึ้นสู่ยอดเขานั้นมี บันได 999 ขั้น ที่ทั้งท้าทายและศักดิ์สิทธิ์ (แนะนำให้สวมรองเท้าสบาย ๆ และระวังขั้นบันไดที่ค่อนข้างแคบ) แต่ถ้าใครอยากประหยัดแรง ก็มี บันไดเลื่อน บริเวณช่องเขาด้านข้างให้เลือกใช้ ระหว่างทาง คุณจะได้เห็นวิวป่าเขียวขจีและหน้าผาสูงชันที่งดงามจนลืมเหนื่อย อย่าลืมแวะถ่ายรูปที่ สะพานกระจก อันโด่งดัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่พลาดไม่ได้!
หมู่บ้านลอยฟ้าท่ามกลางหุบเขาโบราณ
เปลี่ยนบรรยากาศมาที่ หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 4A ที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว หุบเขาแห่งนี้ทอดยาวไปตามแนว แม่น้ำซงจู๋ รายล้อมด้วยป่าไม้เขียวขจี น้ำตกไหลริน และลำธารใสสะอาด ไฮไลต์ที่ทำให้ที่นี่แตกต่างคือ หมู่บ้านโบราณที่ห้อยแขวนอยู่ริมผา สร้างเลียนแบบที่อยู่อาศัยของนักพรตในอดีต บางหลังยังคงเป็นบ้านของชาวบ้านจริง ๆ ขณะที่บางส่วนเปิดเป็น โฮมสเตย์ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตแบบดั้งเดิม ยามค่ำคืน หมู่บ้านจะสว่างไสวด้วยแสงไฟสีสันสดใส มีทั้งร้านอาหารท้องถิ่น ร้านกาแฟ และผับบาร์เก๋ ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแต่ยังคงความสะดวกสบาย เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ
เทือกเขาแอลป์แห่งแดนมังกร
สายเดินป่าต้องไม่พลาด ภูเขาสี่ดรุณี หรือ ซื่อกูเหนียงซาน สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูราว 220 กิโลเมตร ภูเขาแห่งนี้มี 4 ยอดเขา เรียงรายกันยาวกว่า 3.5 กิโลเมตร โดยยอดสูงสุดสูงถึง 6,250 เมตร และปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี ความงดงามของที่นี่ถูกขนานนามว่า “เทือกเขาแอลป์แห่งแผ่นดินจีน” ด้วยทิวทัศน์ที่อลังการและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งเส้นทางเดินป่าสำหรับนักผจญภัยและจุดชมวิวสำหรับคนที่ชอบความสบาย ปัจจุบันที่นี่เป็น อุทยานแห่งชาติ ที่สำคัญ ทั้งยังเป็นแหล่งวิจัยธรณีวิทยาและชีววิทยา หากมาในฤดูใบไม้ร่วง คุณจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีตัดกับหิมะขาว เป็นภาพที่สวยจนต้องหยิบกล้องมาถ่ายรัว ๆ แน่นอน
ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 33 ของโลก
อีกหนึ่งภูเขาที่น่าสนใจในเมืองซ่างเหรา คือ เขาหลิงซาน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 33 ของโลก ด้วยยอดเขา 72 ยอด และยอดสูงสุดที่ 1,496 เมตร การเดินทางขึ้นเขาจะใช้ กระเช้าลอยฟ้า ระยะเวลาประมาณ 15 นาที ระหว่างทางคุณจะได้เห็นหินรูปร่างแปลกตาและป่าเขียวขจีที่สวยงามราวภาพวาด ด้านบนมีเส้นทางเดินและบันไดรวมระยะทาง 8 กิโลเมตร ให้คุณได้สำรวจ แต่ที่พลาดไม่ได้คือ จุดชมวิวกระจกสะท้อน ซึ่งสะท้อนภาพท้องฟ้าสีฟ้าและธรรมชาติสีเขียวได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นมุมถ่ายรูปที่คนรักการเซลฟี่ต้องกรี๊ด! นอกจากนี้ ยังมีวัดเก่าแก่ให้แวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
ความงามที่ยังไม่มีใครพิชิต
หากคุณมองหาภูเขาที่มีความลึกลับและยิ่งใหญ่ ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยยอดเขาสูงสุดที่ 6,740 เมตร ซึ่งยังคงเป็นยอดเขาที่ไม่มีใครพิชิตได้สำเร็จ ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำสำคัญ 3 สาย ได้แก่ จินซาเจียง, หลั่นซางเจียง, และ บู่เจียง ไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวนิยมคือการมาชม พระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งแสงสีทองจะสะท้อนบนยอดเขาหิมะขาว ตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มอย่างงดงามราวภาพฝัน บริเวณรอบ ๆ ยังมี วัดเฟยไหล, ธารน้ำแข็ง, และ หมู่บ้านท้องถิ่น ให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมและธรรมชาติแบบครบรส
หิมะฉ่ำ ๆ กับป่าไม้พันธุ์
สำหรับคนที่อยากสัมผัสหิมะแบบเต็มอิ่ม ภูเขาหิมะวาวู่ ในเมืองเหมยซาน มณฑลเสฉวน คือจุดหมายที่ต้องไป ด้วยความสูง 2,830 เมตร ภูเขาแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีพืชพรรณกว่า 3,000 ชนิด และปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาวจนเหมือนฉากในเทพนิยาย ถึงแม้จะมาได้ทุกฤดู แต่ช่วงที่แนะนำสุด ๆ คือ ฤดูหนาว เพราะคุณจะได้เห็นทิวทัศน์หิมะขาวโพลนที่สวยงามราวภาพวาด แถมยังมีลานสกีเล็ก ๆ ให้เล่นสนุกอีกด้วย เป็นสถานที่ระดับ 4A ที่เหมาะกับทั้งสายถ่ายรูปและสายผจญภัย
วิวหินปูนสุดคลาสสิกแห่งกุ้ยหลิน
ปิดท้ายด้วย เขาเหยาซาน ภูเขาที่สูงที่สุดในเมืองกุ้ยหลิน ด้วยความสูง 909.3 เมตร การขึ้นสู่ยอดเขาจะใช้ กระเช้าลอยฟ้า ระยะทางราว 1 กิโลเมตร ระหว่างทางคุณจะได้เห็นยอดเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาที่เป็นเอกลักษณ์ของกุ้ยหลิน และหากโชคดีในวันที่อากาศแจ่มใส คุณอาจได้เห็น ทะเลหมอก ลอยคลอเคลียยอดเขา เป็นภาพที่สวยจนต้องหยุดหายใจชั่วขณะ ด้านบนมีจุดชมวิวให้ถ่ายรูปและร้านน้ำชาเล็ก ๆ ให้พักผ่อน เป็นการปิดทริปที่ทั้งสงบและน่าประทับใจ
ทั้ง 8 ภูเขาจีนที่เราคัดสรรมานี้ ล้วนมีความงดงามและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าคุณจะชอบท้าทายตัวเองด้วยการเดินป่า ชมวิวจากกระเช้าลอยฟ้า หรือแค่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ก็มีตัวเลือกให้คุณได้สัมผัสตามสไตล์ที่ชอบ หากอยากให้การเดินทางง่ายขึ้น แค่จอง ทัวร์จีน กับ เห็ดยิ้มทราเวล เราจะพาคุณไปเปิดประสบการณ์สุดพิเศษแบบไม่ต้องวางแผนเองให้ยุ่งยาก เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปพบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รอคุณอยู่ที่ประเทศจีนกันเถอะ!